โอกาสในการทำงานในญี่ปุ่น

​

ประเทศญี่ปุ่นเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้สร้างตัวได้หลายจุด เนื่องจากตลาดโลกมีการแข่งขันสูง ประเทศญี่ปุ่นจึงเปิดโอกาสให้การศึกษาที่มีคุณภาพกับผู้เรียนเพื่อให้มีทักษะที่จำเป็นไว้ใช้แข่งขันได้

บริษัทญี่ปุ่นส่วนใหญ่มักจะจ้างพนักงานแบบตลอดชีวิต จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ลูกจ้างต้องมีความสามารถทางด้านภาษาญี่ปุ่นและภาษาอังกฤษ

ในประเทศญี่ปุ่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีและยานยนต์ สร้างรายได้และมีมูลค่ามากที่สุดในโลก จนบริษัทนานาชาติต้องให้ความสนใจ

ญี่ปุ่นมีนวัตกรรมมากมาย เช่น รถไฮบริด หุ่นยนต์ กล้องและแว่น ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางที่ให้ผู้เรียนได้มีจุดเริ่มต้นในการทำงานกับบริษัทชื่อดังต่างๆ เช่น บริษัทรถยนต์อย่าง โตโยต้า, ฮอนด้า, ซูซูกิ, มาสด้า, นิสสัน หรือบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่าง โตชิบา, ฮิตาชิ, มิตซูบิชิ, ฟูจิฟิลม์, แคนนอน, พานาโซนิก, และนินเทนโด เป็นต้น

ตัวอย่างต่อไปนี้เป็นพื้นที่งานที่ผู้เรียนสามารถมีโอกาสหาได้หลังจากการจบการศึกษา

​

วิศวกรรม: ปัจจุบัน บริษัทญี่ปุ่นหลายแห่งมีความต้องการผู้เชี่ยวชาญในด้าน วิศวกรรมการไฟฟ้า, ยานยนต์, และอุตสาหกรรมหนักเป็นจำนวนมาก

เทคโนโลยีสารสนเทศ: บริษัทส่วนใหญ่มักมีตำแหน่งสำหรับพนักงานต่างชาติในด้านนี้อยู่ตลอดซึ่งผู้เรียนที่สนใจสามารถเข้าทำได้

​

การธนาคาร: ในตลาดโตเกียว มีวานิชธนาคาร หลายแห่งที่เปิดโอกาสให้กับผู้เรียนจบใหม่ที่มีความสามารถเข้าสมัครทำงานในด้านนี้ วานิชธนกิจในญี่ปุ่นเป็นธุรกิจที่ต้องใช้ความสามารถด้านภาษาญี่ปุ่นสูง และนอกจากการทำงานเป็นพนักงานในธนาคารแล้วก็ยังสามารถทำงานในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศในส่วนของซอฟต์แวร์ เพื่อได้ค่าจ้างที่สูงขึ้นได้ด้วย

​

ครูสอนภาษาอังกฤษ: อีกวิธีหนึ่งที่ง่ายและใช้กันอย่างแพร่หลายคือการเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เราแนะนำว่าควรหาโดยเฉพาะในโตเกียว

 

ถ่ายแบบ: ผู้เรียนสามารถหางานทำสัญญาถ่ายแบบรายได้ดีในญี่ปุ่นเพื่อใช้เป็นทุนการศึกษาได้

 

ศึกษาต่อ: ประเทศญี่ปุ่นให้ความสำคัญด้านการศึกษาและการวิจัยมาก สังเกตได้จากการใช้เงินลงทุนหลักพันล้านเพื่อพัฒนาสิ่งต่างๆในด้านนี้ ซึ่งผู้เรียนสามารถเพิ่มคุณค่าของตัวเองและค่าแรงที่จะได้รับผ่านการศึกษาต่อเป็นอาจารย์ในสาขานี้ได้

5. สภาพการทำงานหลังการจบการศึกษา

ผู้เรียนที่อยากทำงานในญี่ปุ่นจะได้มีโอกาสทำงานสัปดาห์ละ 28 ช.ม. หรือ 8 ช.ม. ต่อวันขณะศึกษาอยู่ได้ 

ถ้าผู้เรียนจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่น ผู้เรียนจะสามารถหางานได้ง่ายขึ้นและทำวีซ่าทำงานได้ง่ายขึ้นตามด้วย นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกทำงานเป็นแบบ part-time เพื่อฝึกงานและสร้างเครือข่ายในการทำงานได้อีกด้วย

คนที่อยากทำงานและอยู่ในญี่ปุ่นต้องทำวีซ่าทำงาน และต้องมีใบประกาศการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ออกโดยกระทรวงก่อน เพราะวีซ่ามีผลได้แค่รอบละ 5 ปี

​

​

​